Header

ตรวจสมรรถภาพหัวใจขณะออกกำลังกาย (Exercise Stress Test)

ระยะเวลา 01 มกราคม 2566 - 31 ธันวาคม 2566

ราคา 3,200.-

ระยะเวลา 01 มกราคม 2566 - 31 ธันวาคม 2566

ราคา 3,200.-

วินิจฉัยภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดขณะออกกำลังกาย ช่วยให้แพทย์ตรวจพบการตอบสนองที่ผิดปกติ เช่น อาการหายใจลำบาก อาการเจ็บแน่นหน้าอก การเต้นของหัวใจผิดปกติ หรือมีการเปลี่ยนแปลงของคลื่นไฟฟ้าหัวใจ โดยการตอบสนองที่ผิดปกตินี้จะบ่งชี้ว่ามีการขาดเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจในระหว่างการออกกำลังกาย

 

ขั้นตอนการตรวจสมรรถภาพหัวใจด้วยการออกกำลังกาย (ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง)

  • เจ้าหน้าที่จะซักประวัติย่อของผู้เข้ารับการตรวจ โดยเน้นที่อาการปัจจุบันและประวัติคนในครอบครัวที่ป่วยเป็นโรคหัวใจ
  • เจ้าหน้าที่จะนำแผ่นขั้วไฟฟ้า (electrode) ที่มีสายไฟต่ออยู่มาติดที่หน้าอกของผู้เข้ารับการตรวจ เพื่อส่งสัญญาณจังหวะและอัตราการเต้นของหัวใจไปยังเครื่อง โดยระหว่างการตรวจเจ้าหน้าที่จะเฝ้าสังเกตความดันโลหิตและคลื่นไฟฟ้าหัวใจตลอดเวลาที่ตรวจ
  • เมื่อเริ่มขั้นตอนการออกกำลัง ผู้เข้ารับการตรวจจะเดินช้าๆ บนสายพานออกกำลัง โดยความเร็วและความชันของสายพานจะเพิ่มขึ้นทุกสามนาที เมื่ออัตราการเต้นของหัวใจถึงระดับที่ต้องการหรือผู้เข้ารับการตรวจไม่สามารถออกกำลังกายต่อได้แล้ว เจ้าหน้าที่จะหยุดสายพาน

 

การเตรียมตัวในการตรวจ

  • งดอาหารและเครื่องดื่มก่อนการทดสอบ 2 ชั่วโมง ควรงดอาหารมัน งดดื่มชา กาแฟและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
  • สามารถรับประทานยาตอนเช้าวันที่มาตรวจได้ตามปกติ เว้นแต่แพทย์สั่งให้งดยารักษาโรคหัวใจบางชนิดซึ่งอาจทำให้ผลการทดสอบผิดเพี้ยน โดยควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับยาที่รับประทานอยู่ก่อนเข้ารับการตรวจ
  • กรุณานำรายการยาที่บอกปริมาณที่ได้รับมาด้วยเมื่อมาพบแพทย์
  • สวมเสื้อผ้าหลวมๆ ที่ใส่สบาย และรองเท้าที่เหมาะกับการออกกำลังกาย

 

ข้อควรระวังขณะทำการตรวจ

  • ควรรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันทีหากต้องการให้สายพานทำงานช้าลงหรือหยุด หรือเมื่อมีอาการต่อไปนี้
  • อาการแสบร้อน ปวด หรือแน่นหน้าอก
  • คลื่นไส้ วิงเวียน อ่อนเพลีย

 

ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้จากการตรวจ

  • หัวใจเต้นผิดจังหวะ
  • เป็นลมหมดสติ ทำให้ร่างกายอาจเกิดการบาดเจ็บขึ้นได้
  • กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน

 

การปฏิบัติตัวภายหลังการตรวจ

เมื่อยุติการทดสอบแล้ว เจ้าหน้าที่จะยังบันทึกข้อมูลความดันโลหิตและชีพจรของผู้เข้ารับการตรวจจนกว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ หากแพทย์สงสัยว่าอาจมีความผิดปกติ อาจให้ทำการทดสอบเพิ่มหรือแนะนำให้เข้ารับการตรวจด้วยวิธีอื่นเพื่อให้เห็นผลชัดเจนขึ้น ทั้งนี้หลังการตรวจผู้เข้ารับการตรวจสามารถรับประทานอาหาร ยา และทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามปกติเว้นแต่แพทย์จะห้าม  

 

ศูนย์หัวใจ โรงพยาบาลพิษณุเวช

โทร 055-90-9000 ต่อ 520211, 520212

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม